Literacy-th

You’ve got an email! การใช้อีเมลในกลุ่มผู้สูงวัย

อีเมลเป็นเครื่องมือสื่อสารที่มีความสำคัญในสังคมยุคใหม่ เนื่องจากการใช้อีเมลไม่ได้ถูกจำกัดเฉพาะกับคนรุ่นใหม่และคนที่มีอาชีพที่ใช้คอมพิวเตอร์เท่านั้น การใช้อีเมลในกลุ่มผู้สูงอายุก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกันเนื่องจากเป็นประโยชน์ในหลาย ๆ ด้านของการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็น การติดต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูลผู้สูงอายุสามารถใช้อีเมลในการติดต่อกับครอบครัวและเพื่อนฝูง โดยเฉพาะถ้ามีคนที่อาศัยอยู่ห่างไกล อีเมลเป็นช่องทางที่สะดวกและคุ้มค่าในการแลกเปลี่ยนข้อมูล รูปภาพ และอัพเดตชีวิตของตนเองให้คนอื่นได้รับรู้ ผู้สูงอายุสามารถใช้อีเมลเพื่อรับข้อมูลจากจดหมายข่าว ข่าวสาร และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความสนใจของตนเอง เช่น การสมัครรับจดหมายข่าวหรือรับข้อมูลที่ทันสมัยจากองค์กรที่ตนเองสนใจ ผู้สูงอายุสามารถใช้อีเมลในการรับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการนัดหมายทางการแพทย์หรือปฏิทินงาน ทำให้สามารถติดตามวันและเหตุการณ์สำคัญได้อย่างทันท่วงที นอกจากนั้น อีเมลยังสามารถช่วยจัดการทางการเงินได้ ผู้สูงอายุมักใช้อีเมลในการซื้อสินค้าออนไลน์และจัดการบัญชีธนาคาร รับแจ้งเตือนทางอีเมลเกี่ยวกับธุรกรรมและใบเสร็จรับเงิน เป็นต้น ไม่เพียงเท่านั้น ผู้สูงอายุยังอาจใช้อีเมลเพื่อเชื่อมโยงกับชุมชนออนไลน์ต่าง ๆ เช่น ชมรมหรือกลุ่มที่มีความสนใจร่วมกัน ตลอดจนการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ผ่านทางออนไลน์ ผู้สูงอายุบางคนอาจใช้อีเมลเพื่อลงทะเบียนเรียนหลักสูตรออนไลน์ เข้าถึงแหล่งข้อมูลทางการศึกษา หรือเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อเพิ่มพูนความรู้ทักษะใหม่ ๆ ได้เสมอ ที่สำคัญ สามารถใช้อีเมลเพื่อรับข้อมูลด้านสุขภาพจากผู้ให้บริการด้านสุขภาพ แชร์ข้อมูลทางการแพทย์ กระทั่งสื่อสารกับกลุ่มผู้ให้การช่วยเหลือเรื่องสุขภาพเฉพาะทาง สิ่งเหล่านี้สามารถจัดเก็บไว้ในอีเมล ถือเป็นการเก็บบันทึกเอกสารสำคัญในรูปแบบดิจิทัล เช่น เอกสารทางกฎหมาย กรมธรรม์ประกันภัย หรือเอกสารของหน่วยงานรัฐที่จำเป็นต้องใช้ในภายหลัง1, 2 อย่างไรก็ตาม มีข้อควรพิจารณาหลายประการเพื่อให้การใช้อีเมลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ได้แก่ ไม่ใช่ผู้สูงอายุทุกคนจะคุ้นเคยกับเทคโนโลยี หรือบางคนอาจจะไม่ได้รับการฝึกอบรมให้ใช้อีเมลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงต่อการถูกหลอกลวงออนไลน์และละเมิดความเป็นส่วนตัวผ่านช่องทางอีเมล ดังนั้นการอบรมและการเสริมทักษะวิธีคิดให้เกิดความรอบคอบในการใช้เทคโนโลยีเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนั้น […]

You’ve got an email! การใช้อีเมลในกลุ่มผู้สูงวัย Read More »

เทคโนโลยีเพื่อชีวิต : ปัญญาประดิษฐ์กับการดูแลผู้สูงอายุในแดนมังกร

ปัจจุบันประเทศจีนถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย เป็นประเทศที่ไม่หยุดคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในหลากหลายด้าน เช่น เทคโนโลยีในด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ เทคโนโลยีในด้านการแพทย์ รวมไปถึงเทคโนโลยีในด้านการใช้ชีวิตประจำวัน ที่จะเข้ามามีส่วนช่วยให้ชีวิตของผู้คนนั้นมีความเป็นอยู่ที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ในปัจจุบันนี้การส่งเสริมด้านการพัฒนาเทคโนโลยีของจีนได้มีหลายภาคส่วนที่มีส่วนร่วมและสนับสนุน อุตสาหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในประเทศจีน เห็นได้จากการประชุมสมัชชาแห่งชาติครั้งที่ 18 ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ระบุว่า ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของประเทศจีนได้ก้าวกระโดดเป็นประวัติศาสตร์ ความแข็งแกร่งทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเติบโตไปพร้อมกับการพัฒนาความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ การเพิ่มขีดความสามารถทางด้านเทคโนโลยีได้กลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของการพัฒนาเพื่อการเป็นผู้นำการพัฒนาสมัยใหม่ โดย Wu Zhaohui รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้แนะนำการเปลี่ยนแปลงการพัฒนานวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในประเทศจีนไว้ทั้งหมด 4 ด้าน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตอบสนองการดำรงชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คน และความสามารถในการตอบสนองความต้องการของผู้คนเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น1 เมื่อวันที่ 17 ถึง 19 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ประเทศจีนได้จัดงาน SIC Elderly Expo ขึ้นซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ คณะกรรมการทำงานผู้สูงอายุประจำมณฑลกวางตุ้ง กรมกิจการพลเรือนและสำนักงานกิจการพลเรือนกว่างโจว China Aging Industry Association China Poly Group Co., Ltd. และ Poly Development Holding

เทคโนโลยีเพื่อชีวิต : ปัญญาประดิษฐ์กับการดูแลผู้สูงอายุในแดนมังกร Read More »

สูงวัยยุคใหม่ใช้สื่อได้ ประยุกต์สื่อเป็น พร้อมต่อยอดความสร้างสรรค์ สร้างคุณค่าและรายได้ให้แก่ตนเอง

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบันนี้เป็นยุคแห่งการสื่อสารผ่านสื่อสังคมออนไลน์ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล ที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคนทั่วโลกไปเสียแล้ว ทั้งในการติดตามข้อมูลข่าวสาร พูดคุยสร้างความสัมพันธ์ แบ่งปันประสบการณ์ต่าง ๆ ไม่เว้นแม้เรื่องอุปโภคและบริโภค อย่างการซื้อและจำหน่ายสินค้าต่าง ๆ รวมไปถึงวงการและอุตสาหกรรมมากมาย เช่น วงการแพทย์ การขนส่ง หรือการเงินการธนาคาร ซึ่งทำให้ทุกคนจำเป็นต้องปรับตัวในการใช้ชีวิตมากขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ที่เป็นผู้ที่ไม่ได้เติบโตมาพร้อมเทคโนโลยีเหล่านี้ แต่เพื่อความอยู่รอดในสังคมโลกและการดำเนินชีวิตอย่างมีคุณค่า จึงจำเป็นที่จะต้องรู้จักและเข้าถึงการสื่อสารผ่านสื่อดิจิทัลหรือสื่อออนไลน์มากขึ้น อย่างที่เราทราบกันดีว่าสื่อออนไลน์สำคัญต่อการใช้ชีวิตอย่างยิ่งในสมัยนี้ และผู้สูงอายุก็เป็นหนึ่งในช่วงวัยที่บริโภคสื่อออนไลน์มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสถิติการใช้สื่อออนไลน์ในกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้สูงวัยในแต่ละปีมีเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตามสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของโลก แต่จากการสำรวจจากงานวิจัยและตามรายงานของหน่วยงานต่าง ๆ หรือจากการติดตามข่าวสาร จะพบว่าผู้สูงวัยส่วนใหญ่นั้นยังขาดทักษะในการใช้สื่อ รวมทั้งทักษะการนำไปประยุกต์และการนำไปต่อยอดสร้างเนื้อหาที่สามารถช่วยเพิ่มการเข้าถึง และเพื่อสร้างรายได้ทางออนไลน์ในอนาคต เช่นเดียวกับการรู้เท่าทันสื่อที่เป็นสถานการณ์ที่ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องตระหนักถึงความสำคัญ จนมีหลายภาคส่วนพยายามที่จะสร้างเครื่องมือป้องกันภัยจากสื่อ โดยเพิ่มพูนทักษะการรู้เท่าทันสื่อให้กับผู้สูงอายุจากการสร้างหลักสูตรอบรมทั้งแบบ on-site และแบบ online ซึ่งจากการร่วมมือกันจากทุก ๆ คน ส่งผลให้การขับเคลื่อนเรื่องการรู้เท่าทันสื่อในผู้สูงอายุนั้นเป็นไปในทิศทางที่ดีและเห็นผลอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากผู้สูงอายุเป็นวัยแห่งพฤฒพลัง (Active Aging) ซึ่งหมายถึง ผู้สูงอายุที่มีสุขภาวะสมบูรณ์ มีสุขภาพกายและใจที่ดี มีความคล่องแคล่วว่องไว รู้จักและเห็นคุณค่าในตนเอง และไม่เพียงแต่ดูแลตนเองได้แต่ยังสามารถช่วยเหลือผู้อื่น แนะนำและส่งต่อความรู้ ความสามารถให้กับผู้อื่นได้อีกด้วย1 เพราะฉะนั้นแล้ว ผู้สูงอายุยุคใหม่จึงไม่เพียงแต่จะต้องรู้ เข้าใจ และเท่าทันสื่อเพียงเท่านั้น

สูงวัยยุคใหม่ใช้สื่อได้ ประยุกต์สื่อเป็น พร้อมต่อยอดความสร้างสรรค์ สร้างคุณค่าและรายได้ให้แก่ตนเอง Read More »

เมื่อวัยเก๋าต้องรู้เท่าทันสื่อดิจิทัล หลักสูตรเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันสำหรับผู้สูงอายุจึงเกิดขึ้น

ผู้สูงอายุทุกคนล้วนแต่ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งจากตัวผู้สูงอายุเองและจากสภาพแวดล้อมในสังคม ซึ่งบางครั้งกลายเป็นความเสี่ยงที่จะเกิดภัยอันตรายต่อตัวผู้สูงอายุที่สังคมควรให้ตะหนักถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่ผู้สูงอายุต้องใช้ชีวิตท่ามกลางการแพร่กระจายของข้อมูลข่าวสารที่มักจะคลาดเคลื่อนด้วยเหตุปัจจัยที่หลากหลาย หรือบางครั้งข้อมูลข่าวสารที่ได้รับก็เกิดข้อผิดพลาดได้ ซึ่งเป็นประเด็นปัญหาทางสังคมที่เราก็จะเห็นหรือได้ฟังจากข่าว หรือประสบการณ์คนรอบข้างอยู่บ่อยครั้ง การแพร่กระจายของข้อมูลข่าวสารที่คลาดเคลื่อนและผิดพลาดในสื่อต่าง ๆ อาจทำให้ผู้สูงอายุได้รับผลกระทบเชิงลบจากการใช้สื่อหลายประการ เช่น ถูกหลอกลวง เอารัดเอาเปรียบ หลงกลมิจฉาชีพที่แฝงเข้ามา หลงเชื่อโฆษณาที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง ทำให้ต้องสูญเสียทรัพย์สินเงินทองที่เก็บออมไว้ใช้ในบั้นปลายของชีวิต และบางครั้งเพิ่มปัญหาทางสุขภาพให้ซับซ้อนหรือรุนแรงขึ้น ส่งผลต่อเนื่องเป็นความเครียด วิตกกังวล หรือเกิดภาวะต่าง ๆ 1 นอกจากนี้ ผู้สูงอายุยังอาจกลายเป็นกลุ่มเครือข่ายที่เป็นต้นตอของการเผยแพร่ข้อมูลผิด ๆ ไม่ว่าจะจากการแชร์ภาพ ส่งต่อข่าวสาร และข้อมูลโดยไม่ได้ตรวจสอบหรือกลั่นกรองความถูกต้องให้ดีเสียก่อน รวมไปถึงการนำข้อมูลส่วนตัวผู้อื่นไปใช้จนเกิดความเสียหาย2 ผลกระทบเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงของการใช้สื่ออย่างไม่รู้เท่าทันสถานการณ์ ทั้งนี้การเสริมสร้างการรู้เท่าทันสื่อให้กับกลุ่มผู้สูงอายุจึงเป็นประเด็นทางสังคมที่ถือว่าสำคัญไม่น้อยไปกว่าประเด็นทางสังคมด้านอื่นๆ เลย ไม่ว่าจะการเมือง เศรษฐกิจ หรือการดูแลสุขภาพ จากที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ส่งผลให้ องค์กร สถาบันและหน่วยงานต่าง ๆ ไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ และพยายามที่จะหาทางเสริมภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งราวกับเป็นการติดอาวุธให้กับผู้สูงอายุที่ต้องเผชิญกับสภาวะที่สื่อเข้าถึงตัวอยู่ตลอดเวลา โดยส่วนใหญ่จะมีการจัดทำหลักสูตรการรู้เท่าทันสื่อ รู้เท่าทันเทคโนโลยี การใช้สื่อหรือเทคโนโลยี รวมไปถึงการนำสื่อไปสร้างสรรค์ในด้านอื่น ๆ หรือแม้แต่การสร้างรายได้จากสื่อก็ด้วย ซึ่งจะขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพว่ามีหลักสูตรใดบ้างที่ถูกสร้างมาเพื่อผู้สูงอายุในประเทศไทย หลักสูตร “วัยเพชรรู้ทันสื่อ” จัดทำโดยกลุ่มวิจัยการสื่อสารเพื่อพัฒนา ของสถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล

เมื่อวัยเก๋าต้องรู้เท่าทันสื่อดิจิทัล หลักสูตรเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันสำหรับผู้สูงอายุจึงเกิดขึ้น Read More »

ทำไมเราถึงไม่ชอบฟังเพลงใหม่เมื่อมีอายุมากขึ้น

เพลงยุคของเราดีที่สุดทั้งที่มันผ่านพ้นไปนานหลายสมัย และยังคงรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้ยิน หากลองพิสูจน์ข้อเท็จจริงดังกล่าวด้วยตนเอง ลองเปรียบเทียบเพลงใหม่ในปัจจุบันที่เกิดขึ้นใหม่รอบข้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ยินมันตามพื้นที่สาธารณะ หรือจากผู้คนในครอบครัวที่มีวัยแตกต่างกัน เรามักจะรู้สึกว่าเหตุใดพวกเขาถึงฟังเพลงเหล่านั้นเข้าไปได้ หรืออาจจะไม่เข้าหูเอาเสียเลย อะไรที่ทำให้รู้สึกว่าเพลงที่เกิดขึ้นในปัจจุบันไม่ดีเหมือนกับเพลงที่อยู่ในความทรงจำหรือยุคสมัยก่อน บทความนี้จะชวนคิดให้เราตั้งคำถามว่าทำไมเราถึงรู้สึกแบบนั้น และความคิดเหล่านี้มันสะท้อนความคิดของเราอย่างไร หรือหากเราสามารถก้าวพ้นข้ามผ่านบทเพลงที่เคยรู้สึกว่าดีในความทรงจำเหล่านั้นได้อย่างไร การเปรียบเทียบบางสิ่งจากข้อมูลดั้งเดิมที่อาจจะเรียกได้ว่าเรามีพื้นฐาน “รสนิยม” ที่ไม่เหมือนกัน นำไปสู่การที่ไม่อยากเสียเวลาไปฟังและทำความเข้าใจปรากฏการณ์ปัจจุบัน ซึ่งเกิดขึ้นเป็นปกติในมนุษย์ทุกคน ยิ่งมีอายุมากขึ้น เวลาที่จะให้ความสนใจกับความบันเทิงหรือใช้เวลาไปกับการฟังเพลงใหม่มีน้อยลง อีกทั้งบทเพลงในยุคสมัยของเราอาจจะเพียงพอแล้วสำหรับใช้สะท้อนรสนิยมหรือตัวตน ที่ใช้อธิบายปรากฏการณ์ในชีวิตดุจเพลงประกอบภาพยนตร์ในชีวิตจริงได้อีกด้วย ไม่แปลกที่หลายครั้งเรามักจะชอบเพลงเก่าที่เราคุ้นชินมากกว่าจะเป็นเพลงใหม่ที่เกิดขึ้น รสนิยมที่แตกต่าง แน่นอนว่ารสนิยมเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ถือได้ว่าเป็นรูปธรรมทางประวัติศาสตร์ในชีวิตมนุษย์ทุกคน และสามารถเชื่อมร้อยผู้คนให้มีความเชื่อมโยงกันได้จากการบริโภคผ่านกาลเวลาและสถานที่ร่วมกัน ซึ่งแน่นอนว่าช่วงวัยคือขอบเขตสมมุติผ่านประสบการณ์ร่วม ที่สามารถก่อรูปกลายเป็นรสนิยมของผู้คนในยุคสมัยหนึ่งได้ แต่เมื่อเวลาและสถานที่แตกต่างกัน บริบทในชีวิตที่ไม่เหมือนกัน รสนิยมที่เกิดขึ้นใหม่อาจจะไม่สอดคล้องกับรสนิยมเดิมที่เราเคยมีและมักอ้างอิงจากประสบการณ์ในช่วงวัยของเรา อย่างไรก็ตาม หากกล่าวด้วยภาษานักสังคมวิทยาอย่างบูดิเยอร์1 ชีวิตมนุษย์นั้นไม่ได้ประกอบขึ้นจากทุนทางเศรษฐกิจแต่เพียงอย่างเดียว หากแต่ความเป็นตัวตนที่ก่อรูปขึ้นจากประสบการณ์และความทรงจำที่แตกต่างกันไปนั้น กลับกลายเป็นทุนทางวัฒนธรรมที่ปรากฏออกมาเป็นรูปธรรมแบบที่เราเรียกกันว่า “รสนิยม” หากรสนิยมคือสิ่งซึ่งแสดงออกผ่านการบริโภค การบริโภคจึงเป็นส่วนสำคัญที่สะท้อนตัวตนและความคิดของมนุษย์ในห้วงเวลาหนึ่งได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฟังเพลงที่เราเคยมีเวลามากพอที่จะอยู่ด้วยกันกับสิ่งนี้ในช่วงชีวิตหนึ่ง และค่อย ๆ ห่างหายไปจากหน้าที่การงานและความสำคัญอื่น ๆ ในชีวิตที่มีมากกว่าการฟังเพลง บทเพลงที่เกิดขึ้นใหม่จึงไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตที่ยุ่งเหยิง หรือไม่มีเวลามากพอที่จะมานั่งฟังเพลงใหม่ ๆ ได้ ซึ่งเรามักเทียบกับประสบการณ์ของช่วงชีวิตที่ผ่านมาของเรา แน่นอนว่ามันอาจจะไม่เหมือนที่เคยฟังมา แต่จริงหรือที่มันไม่เหมือนกัน บทเพลงสมัยนิยมที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 จวบจนถึงปัจจุบันเรียกได้ว่ามีโครงสร้างหรือแก่นแกนที่แทบจะไม่มีความเปลี่ยนแปลง กล่าวคือทุกบทเพลงต้องประกอบไปด้วยท่อนที่มีความแตกต่างกัน

ทำไมเราถึงไม่ชอบฟังเพลงใหม่เมื่อมีอายุมากขึ้น Read More »

สถานการณ์การใช้สื่อของผู้สูงวัยชาวจีนในฐานะ “คนเก่า ใน โลกใบใหม่”

อย่างที่พวกเราทราบกันดี ตอนนี้โลกของเราได้เข้าสู่ยุคออนไลน์เต็มตัว จากการพัฒนาของเทคโนโลยีที่เป็นไปอย่างก้าวกระโดดนั้น ทำให้ผู้สูงอายุ หรืออาจจะเรียกได้ว่า “คนเก่า” จำนวนไม่น้อยเลยที่กำลังตาม “โลกใบใหม่” ไม่ทัน โลกที่ว่านั้นคือ โลกที่เต็มไปด้วยความล้ำสมัยของเทคโนโลยีชั้นสูง ไม่ว่าจะจากอินเทอร์เน็ต สื่อสังคมออนไลน์ หรือแม้แต่อุปกรณ์ทันสมัยอย่าง สมาร์ทโฟน หากทว่าภัยร้ายทางเทคโนโลยีก็เข้ามาพร้อมกันด้วย ซึ่งกลโกงเหล่านั้นได้เจาะจงพุ่งเป้ามาที่กลุ่มผู้สูงอายุมากขึ้น ทั้งนี้ การมีผู้สูงวัยในประเทศเป็นจำนวนมากนั้นไม่เพียงแค่เป็นการที่มีประชากรกลุ่มนี้ล้นประเทศเท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดวิกฤตหรือสถานการณ์บางอย่างที่ส่งผลกระทบต่อส่วนรวม เช่น สังคม เศรษฐกิจ หรือแม้แต่การใช้ชีวิตประจำวันของประชากรทุกคน ดังนั้นจึงต้องมีการวางแผนตั้งรับกับสถานการณ์ใด ๆ ก็ตามที่กำลังจะเกิดขึ้น เพื่อทำให้ผลกระทบที่จะตามมานั้นน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ รวมไปถึงการเตรียมพร้อมที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นสถานการณ์ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ซึ่ง “ประเทศจีน” ก็เช่นกัน จำนวนผู้สูงอายุในประเทศจีนมีเพิ่มมากขึ้นจนเข้าสู่ช่วงเริ่มต้นของสังคมผู้สูงวัยเป็นที่เรียบร้อย  โดยอ้างอิงจากการเก็บข้อมูลของ The National Bureau of Statistics ในปี 2021 ประชากรที่มีอายุมากกว่า 60 ปีในประเทศจีนมีจำนวนมากกว่า 267 ล้านคน ซึ่งคิดเป็น 18.9% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ และจากข้อมูลในปี 2022 ประชากรจีนที่อายุมากกว่า 60

สถานการณ์การใช้สื่อของผู้สูงวัยชาวจีนในฐานะ “คนเก่า ใน โลกใบใหม่” Read More »

การสื่อสารและการดูแลผู้สูงวัยต่างชาติในประเทศไทย

การท่องเที่ยวระยะยาวระหว่างประเทศ หรือที่เรียกว่าการย้ายถิ่นฐานเพื่อการเกษียณอายุระหว่างประเทศ เริ่มเป็นที่นิยมในประเทศแถบตะวันตกมาหลายทศวรรษ และค่อย ๆ แพร่กระจายไปทั่วโลก รัฐบาลไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบพำนักระยะยาวมาตั้งแต่ พ.ศ. 2544 โดยเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ คำว่า “การพำนักระยะยาว” หมายถึง การอยู่ในประเทศเกิน 30 วัน และไม่ใช่เพื่อท่องเที่ยวหรือทำงาน โดยท้ายที่สุดผู้ที่เข้ามาพำนักก็จะต้องกลับไปยังประเทศบ้านเกิด1 ประเทศไทยเป็นสถานที่ดึงดูดผู้เกษียณอายุชาวต่างชาติซึ่งต้องการใช้เวลาช่วงพักผ่อนระยะยาวมานานแล้ว โดยรัฐบาลได้ออกวีซ่าเกษียณอายุเกือบ 8 หมื่นใบ ใน พ.ศ. 2561 ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 จาก พ.ศ. 2557 ผลวิจัยของธนาคารกสิกรไทยประเมินว่าใน พ.ศ. 2559 มีชาวต่างชาติอายุมากกว่า 50 ปีที่ถือวีซ่าพำนักระยะยาวจำนวน 68,300 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 จากช่วง 2 ปีที่ผ่านมา2 เหตุผลที่ทำให้ประเทศไทยเป็นที่นิยม ก็เพราะที่อยู่อาศัยมีราคาย่อมเยาว์ อัตราค่าครองชีพต่ำ และเป็นเมืองที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสุขภาพที่มีมาตรฐานระดับโลก เราอาจจะสังเกตเห็นปรากฏการณ์หนึ่งซึ่งเชื่อมโยงระหว่างการเดินทางเข้ามายังประเทศไทยกับการดูแลผู้เกษียณอายุชาวต่างชาติ เนื่องจากคนกลุ่มนี้เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องประสบกับปัญหาสุขภาพในวัยชรา จนจำเป็นต้องขอใช้บริการการดูแลทางการแพทย์ในประเทศไทย เหตุนี้เองรัฐจึงได้จัดโครงการดูแลสุขภาพระยะยาวขึ้นในปี พ.ศ.

การสื่อสารและการดูแลผู้สูงวัยต่างชาติในประเทศไทย Read More »

ผู้สูงวัยกับวิทยุ: วันเก่าที่ยังจดจำ

ผู้สูงอายุมีประสบการณ์ชีวิตและความทรงจำมากมาย วิธีการสื่อสารอย่างหนึ่งที่ดึงวันเก่าที่ยังจำได้ให้ระลึกถึงขึ้นมา คือวิทยุ สำหรับวิทยุแล้ว ช่องทางการสื่อสารนี้ทำหน้าที่เป็นสื่ออันทรงพลัง ไม่เพียงให้ความบันเทิง แต่ยังกระตุ้นความคิดถึงวันเก่า ๆ อีกด้วย ในขณะที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว คนรุ่นใหม่มักมองข้ามผลกระทบของวิทยุที่มีต่อชีวิตของผู้สูงอายุ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้สูงอายุ วิทยุ และความคิดคำนึงถึงอดีต มีนัยต่อการทำความเข้าใจถึงอิทธิพลของวิทยุที่มีต่อคนรุ่นก่อน หากเราหวนมองความสำคัญของวิทยุ บางทีเราจะสามารถส่งเสริมสายสัมพันธ์ระหว่างรุ่น อนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม และพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีของผู้สูงอายุในสังคมไทยผ่านการสื่อสารทางวิทยุย้อนสมัยได้เช่นกัน อันที่จริงแล้ว วิทยุมีบทบาทสำคัญในชีวิตของผู้สูงอายุไทยมาหลายทศวรรษ ทำหน้าที่เป็นหน้าต่างสู่โลกภายนอก แหล่งความบันเทิง ก่อนการกำเนิดของโทรทัศน์และอินเทอร์เน็ต วิทยุเป็นแหล่งรับข่าวสารหลัก ฟังดนตรี และเรื่องราวต่าง ๆ ทำให้เกิดความรู้สึกเชื่อมโยง เชื่อมช่องว่างระหว่างพื้นที่ห่างไกลกับใจกลางเมืองของประเทศไทยในอดีต1 รายการวิทยุ เช่น รายการข่าว ละครวิทยุ หรือแม้แต่การพูดคุยอย่างทอล์คโชว์ เป็นสิ่งที่ผู้สูงอายุในพื้นที่ห่างไกลเมืองรอคอยอย่างใจจดใจจ่อในฐานะเพื่อนยามเหงา ความคิดถึงกับความโหยหาอดีตที่มักเกิดขึ้นจากรายการวิทยุ มีความสำคัญทางอารมณ์กับผู้สูงอายุไทยอย่างลึกซึ้ง วิทยุอาจนำเสนอเพลงและเสียงที่คุ้นเคยจากวัยเยาว์ทำให้ความทรงจำหวนคืนมา สร้างความรู้สึกสบายใจ สำหรับผู้สูงอายุหลาย ๆ คน วิทยุทำหน้าที่เป็น “ไทม์แมชชีน” เพื่อพาตนเองย้อนกลับไปสู่ยุคอดีต ความคิดถึงที่มีผลกระทบอย่างมากต่อความผาสุกทางจิตใจ เพราะช่วยแก้เหงา การซึมเศร้า และความโดดเดี่ยวทางสังคมที่มักมาพร้อมกับวัยชรา2 การได้มีโอกาสดำดิ่งสู่ประสบการณ์แห่งความคิดถึงผ่านทางวิทยุนี้เอง อาจทำให้ผู้สูงอายุค้นพบตัวตนอีกครั้ง เช่น ย้อนคิดถึงกิจกรรมสมัยเป็นหนุ่มเป็นสาวผ่านรายการเพลงยุคเก่า นี่เองคือการเชื่อมโยงความหมายของการใช้ชีวิตในปัจจุบันกับอดีตของผู้สูงวัยแต่ละคน

ผู้สูงวัยกับวิทยุ: วันเก่าที่ยังจดจำ Read More »

โฆษณาที่ตอบสนองตามวัย สร้างความเท่าเทียมในสังคมสูงวัย

ในสังคมที่ขับเคลื่อนด้วยผู้บริโภคในปัจจุบัน การโฆษณามีบทบาทสำคัญในการสร้างการรับรู้และความต้องการของมนุษย์ แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วโฆษณามักจะมีเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม แต่กลุ่มหนึ่งที่มักถูกละเลยคือกลุ่มผู้สูงอายุ การตลาดผ่านโฆษณาควรคำนึงถึงปรากฏการณ์จำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และตระหนักว่า การโฆษณาใด ๆ ควรให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุ และตอบสนองตามวัยของผู้เสพสื่อด้วยเช่นกัน ประชากรสูงอายุ ซึ่งโดยทั่วไปหมายถึงบุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปนั้น เป็นตัวแทนของกลุ่มผู้บริโภคที่มีค่าอย่างยิ่ง กลุ่มผู้สูงอายุนี้ล้วนมีความต้องการที่หลากหลาย ความพึงพอใจเฉพาะตัว และกำลังซื้อที่มหาศาล การศึกษาขององค์การอนามัยโลกคาดการณ์ว่าภายในอีก 30 ปีข้างหน้า จำนวนผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปจะสูงถึง 2 พันล้านคนทั่วโลก1 การเปลี่ยนแปลงทางประชากรที่มีนัยสำคัญนี้เอง จำเป็นต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด หากนักการตลาดต้องการให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมในการรับสื่อโฆษณาอย่างมีประสิทธิภาพ นี่เองจึงเป็นที่มาของแนวคิดที่ว่าโฆษณาควรจะต้องตอบสนองตามวัย (Age-responsive) และตระหนักถึงความสนใจที่หลากหลายของผู้สูงอายุ การปรับแต่งโฆษณาให้ตรงกับสิ่งที่ผู้สูงอายุสนใจจึงสมควรส่งเสริมให้เกิดขึ้น นักการตลาดควรสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสินค้ากับผู้สูงอายุ จนทำให้เกิดความภักดีต่อยี่ห้อสินค้า (brand loyalty) ดังนั้น หากนักโฆษณาประชาสัมพันธ์พยายามปรับทัศนคติให้เปิดรับความต้องการที่แท้จริง ตลอดจนประสบการณ์อันหลากหลายของผู้สูงอายุ ก็จะทำให้มั่นใจได้ว่า ผู้สูงอายุจะไม่ถูกผลักให้เป็นกลุ่มชายขอบของการโฆษณา แต่จะเสริมพลังให้ผู้สูงอายุในฐานะผู้มีส่วนร่วมในการตลาดอย่างทั่วถึง2 ในอดีตที่ผ่านมา เราอาจสังเกตได้ว่า ผู้สูงอายุถูกนำเสนอในโฆษณาผ่านมุมมองแบบเหมารวม มักถูกมองว่าช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้ ไม่ช่ำชองในเรื่องเทคโนโลยี หรือพ้นไปจากกระแสร่วมสมัย ภาพตัวแทนดังกล่าวมิใช่ภาพแห่งความเป็นจริง ผู้สูงวัยในปัจจุบันยังคงมีชีวิตชีวาและมีความหลากหลายภายในกลุ่มตนเองนี้ แต่ภาพตัวแทนในโฆษณาปัจจุบัน ยังคงเป็นภาพเชิงลบ จนทำให้ผู้กลุ่มผู้เสพสื่อเกิดการแบ่งแยกแตกต่าง3

โฆษณาที่ตอบสนองตามวัย สร้างความเท่าเทียมในสังคมสูงวัย Read More »

ชุมชนที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุสร้างได้ด้วยการสื่อสารที่ดี

ชุมชนที่เป็นมิตรต่อผู้สูงอายุ คือชุมชนที่มีแนวนโยบาย การบริการ และโครงสร้างที่เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมทางกายภาพและทางสังคมซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุอาศัยในชุมชนนั้น ๆ ได้อย่างมีความสุข กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ชุมชนที่ใส่ใจและช่วยให้ผู้สูงอายุมีความสุขอย่างปลอดภัย ทั้งทางสุขภาพกายและสุขภาพใจ ตัวอย่างการสร้างสภาพแวดล้อมในชุมชนที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ เช่น ทางเท้ามีแสงสว่างเพียงพอและอยู่ในสภาพดี อาคารต่าง ๆ มีประตูแบบเลื่อนเปิดหรือมีลิฟต์อัตโนมัติ และการที่ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมในกิจกรรมชุมชนทุกประเภท เช่น การจัดการอบรมที่เป็นประโยชน์ หรือเปิดโอกาสให้ได้เป็นอาสาสมัครเพื่อการกุศลต่าง ๆ ทั้งนี้ สมาชิกในชุมชนที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ ย่อมตระหนักดีว่าผู้สูงอายุมีทักษะและความสามารถที่หลากหลาย เข้าใจความต้องการต่าง ๆ ของผู้สูงอายุ เคารพการตัดสินใจและการเลือกใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ ตลอดจนดูแลปกป้องผู้สูงอายุที่สุขภาพไม่ดี1 การสร้างชุมชนที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุนี้ จำเป็นต้องมีการสื่อสารที่ดีเพื่อให้ทุกคนในชุมชนเข้าใจ และที่สำคัญคือตัวของผู้สูงอายุเอง เพื่อจะได้ใช้ชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมา และเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของคนในครอบครัวในการช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านสุขภาพได้อย่างทันท่วงที2 บุคคลที่สำคัญในการสื่อสารระหว่างผู้สูงวัยกับชุมชนเพื่อพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรนั้น คือผู้ประสานงานในชุมชุม ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีทักษะในการสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจ โน้มน้าวใจคนในชุมชน และปรับเปลี่ยนทัศนคติให้เป็นเชิงบวก ผู้ประสานงานนี้ อาจเป็นผู้นำชุมชน หรือผู้นำการเปลี่ยนแปลงในชุมชน ซึ่งควรจะมีความกระตือรือร้น เอาใจใส่ และมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ ผู้ประสานงานเพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมทางกายและทางใจที่ดีต่อผู้สูงอายุนี้ ยังควรต้องดึงให้ผู้สูงอายุเข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบสิ่งแวดล้อมในชุมชนเองด้วย เพื่อให้เกิดการใช้งานได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นศาลาประชาคม หรืออาคารอื่น ๆ ที่ใช้ร่วมกันในการประชุมของชุมชน อันจะถือได้ว่าเป็นการมีส่วนร่วมที่ยั่งยืนแท้จริง3 งานวิจัยชิ้นหนึ่งระบุถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมในการส่งเสริมและให้บริการสุขภาพอันเป็นมิตร เพื่อให้ผู้สูงวัยสามารถเข้าถึงบริการเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย

ชุมชนที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุสร้างได้ด้วยการสื่อสารที่ดี Read More »

Scroll to Top