Literacy-th

การสื่อสารเพื่อป้องกันภาวะซึมเศร้าของผู้สูงวัย

เมื่อไม่นานมานี้ มีข่าวปรากฏตามหน้าสื่อสังคมออนไลน์ว่า ผู้สูงวัยในประเทศเนเธอร์แลนด์มีโอกาสหาเพื่อนคุยยามเหงาในขณะเดินทางไปซื้อหาเครื่องอุปโภคบริโภคที่ซูเปอร์มาเก็ตได้ โดยห้าง Jumbo ในเนเธอร์แลนด์เปิดตัวช่องคิดเงินแบบใหม่ที่ทำให้ผู้สูงวัยใช้เวลาที่หน้าแคชเชียร์เป็นเวลานานมากขึ้น เพื่อเปิดโอกาสได้พูดคุยกับพนักงาน การเปิดช่องชำระเงินพิเศษให้ผู้สูงวัยที่มาซื้อสินค้าได้พูดคุยกับพนักงานนั้น เป็นโครงการที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2564 ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา จนทำให้ประชาชนต้องกักตัวในบ้าน ไม่มีโอกาสได้พบปะกันตามปกติ ในปัจจุบัน ห้าง Jumbo ได้ขยายการให้บริการพิเศษนี้เพิ่งขึ้นกว่า 200 แห่ง สร้างเสริมบทบาทสำคัญในสังคม ทำให้ร้านค้าเป็นสถานที่นัดพบ ช่วยสร้างความหมายของชีวิตและต่อสู้กับความเหงาโดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงวัยที่มักจะมีความรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวได้ง่าย1 ลักษณะการทำธุรกิจเช่นนี้ สะท้อนให้เห็นภาพสังคมที่มีความโดดเดี่ยวต่างคนต่างอยู่เพิ่มมากขึ้น โดยเมื่อหันกลับมามองประเทศไทย เราอาจจะพบว่า จำนวนคนที่กลายเป็นโรคซึมเศร้ามีมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามสภาพสังคมที่ห่างเหินกัน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่มักต้องอยู่คนเดียว เพราะลูกหลานอยู่ไกลกัน จนอาจทำให้เกิดโรคซึมเศร้าได้ โรคซึมเศร้าเป็นภาวะทางอารมณ์ซึ่งอาจเกิดจากการสูญเสียหรือผิดหวัง อันเกิดการถูกทอดทิ้ง การเผชิญกับอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง การเปลี่ยนแปลงในชีวิตกะทันหัน หรือการสูญเสียความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ผู้ที่มีอาการของโรคซึมเศร้ามักจะมีความรู้สึกหม่นหมอง หงุดหงิดง่าย ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง อาการทางกายคือน้ำหนักลดลงหรือน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ร่างกายอ่อนเพลีย ไร้เรี่ยวแรง2 จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ในปี 2563 คนไทยมีคะแนนสุขภาพจิตเฉลี่ย 33.53 คะแนน ซึ่งนับว่าอยู่ในระบบมาตรฐานสำหรับสุขภาพจิตที่ยังไม่น่าเป็นห่วง โดยคะแนนระดับนี้จะอยู่ในสัดส่วนโดยประมาณ 27.01-34.00 คะแนน สำหรับกลุ่มมีอายุ 60 […]

การสื่อสารเพื่อป้องกันภาวะซึมเศร้าของผู้สูงวัย Read More »

วิดีโอเกมนั้น สำคัญไฉน: การเล่นเกมกับการสร้างเสริมทักษะของผู้สูงอายุ

“การเล่นวิดีโอเกม” มักจะได้รับการเชื่อมโยงว่าเป็นกิจกรรมของเด็ก หรือวัยรุ่นเพศชาย เป็นส่วนใหญ่จนเสมือนกลายเป็นภาพจำของผู้เล่นเกม หรือเกมเมอร์ (Gamer) แต่อันที่จริงแล้วผู้เล่นเกมไม่ได้มีเพียงเด็กหรือวัยรุ่นเป็นหลักเท่านั้น ข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเกมของสหรัฐอเมริกาใน ค.ศ. 2022 จากเว็บไซต์ Entertainment Software Association1 เผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า ประชากรอเมริกันราวร้อยละ 66 เล่นเกมอย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ผู้เล่นเกมไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพศชายเท่านั้น แต่มีเพศหญิงด้วย (เพศชายเล่นเกมร้อยละ 70 ของประชากรทั้งหมด และเพศหญิงเล่นเกมร้อยละ 62 ของประชากรทั้งหมด) อายุของผู้ที่เล่นเกมมีการกระจายตัวอย่างยิ่ง โดยผู้เล่นเกมที่อายุต่ำกว่า 18 ปีมีเพียงร้อยละ 24 เท่านั้น ขณะที่ผู้ที่เล่นเกมอายุมากกว่า 18 ปีมีอัตราถึงร้อยละ 76 ของประชากรทั้งหมดซึ่งถือว่าเป็นประชากรส่วนใหญ่ โดยร้อยละ 9 ของประชากรที่เล่นเกมเป็นคนที่มีอายุ 55-64 ปี ในขณะที่ร้อยละ 6 ของประชากรที่เล่นเกมเป็นคนอายุมากกว่า 65 ปี นอกจากนั้น รายงานยังชี้อีกด้วยว่า อายุเฉลี่ยของผู้ที่เล่นเกมในสหรัฐอยู่ที่ 33 ปี และร้อยละ

วิดีโอเกมนั้น สำคัญไฉน: การเล่นเกมกับการสร้างเสริมทักษะของผู้สูงอายุ Read More »

ChatGPT กับประโยชน์สำหรับผู้สูงวัย

ท่ามกลางคำถามมากมายที่เกิดขึ้นในสังคมเมื่อปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ชนิดใหม่อย่าง ChatGPT เกิดขึ้น คนในหลายวงการต่างมองปรากฏการณ์นี้เป็นทั้งโอกาสและภัยที่อาจทำให้ตนเสียผลประโยชน์จากการมีเครื่องมืออัตโนมัติในการสร้างสรรค์ผลงาน สำหรับประเด็นผู้สูงวัย เราจะใช้ประโยชน์จาก ChatGPT เพื่อลดความรู้สึกเหงาโดดเดี่ยวในผู้สูงอายุหรือความช่วยเหลือด้านสุขภาพได้หรือไม่ ยังเป็นคำถามสำคัญที่ต้องค้นหาคำตอบ เมื่อไม่นานมากนี้ บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้าน AI แห่งหนึ่งของเกาหลีใต้ได้ประกาศว่า กำลังจัดสร้างเทคโนโลยีการดูแลผู้สูงอายุด้วยระบบ AI พร้อมหุ่นยนต์คู่หูสำหรับผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่คนเดียว อันเป็นแนวทางสำคัญในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ เทคโนโลยีนี้ถูกรวมเข้ากับบริการ ChatGPT เพื่อให้ AI สนทนาคล้ายมนุษย์ เป็นการโต้ตอบกับผู้สูงอายุได้อย่างทันทีทันใด โดยสร้างหุ่นยนต์ที่ชื่อ Dasom-K หรือ ซึ่งใช้ ChatGPT กับการดูแล โดยตั้งเป้าหมายที่จะให้แนวทางนี้เป็นบรรทัดฐานสำหรับการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ บริษัทดังกล่าวปรับโปรแกรม GPT3.0 ให้เข้ากับหุ่นยนต์ ผ่านระบบ AI เพื่อรวบรวมข้อมูลบันทึกชีวิต เช่น เวลานอน กิจกรรม และลักษณะสุขภาพของผู้สูงวัย โดยถามคำถามเพื่อขอรับข้อมูลจากผู้สูงอายุ หุ่นยนต์พร้อม ChatGPT นี้ มีฟังก์ชันพื้นฐาน อาทิ ระบบเตือนการกินยา การเล่นเพลง การวินิจฉัยสุขภาพผ่านไปยังแพทย์หรือบุคคลที่สาม การสนทนาทางวิดีโอกับครอบครัว การโทรศัพท์ฉุกเฉิน กระทั่งส่งสัญญาณฉุกเฉินไปยังโรงพยาบาล

ChatGPT กับประโยชน์สำหรับผู้สูงวัย Read More »

การหลอกลวงออนไลน์

เคยสังเกตหรือไม่ว่า เหตุใดกลโกงหรือนักต้มตุ๋นจึงพยายามหลอกลวงผู้สูงวัยเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก นั่นอาจเป็นเพราะคนกลุ่มนี้มองว่า ผู้สูงวัยมีสินทรัพย์ในธนาคารเป็นจำนวนมาก แต่ความจริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงวัยที่มีฐานะหรือมีเงินไม่มากนัก ก็สามารถตกเป็นเหยื่อนักหลอกลวงพวกนี้ได้ไม่ต่างกัน ผู้สูงอายุหลายคนใช้เวลาหลายปีในการเก็บเงินออมทรัพย์เพื่อใช้ในการลงทุน ซึ่งเป็นวิธีที่เหมาะสมในการสร้างความมั่นคงทางการเงิน แต่ก็อาจทำให้ตนเองตกเป็นเป้าหมายของการฉ้อโกงเพื่อการลงทุน เช่น แชร์ลูกโซ่ ในการหลอกลวงประเภทนี้ คนร้ายมักจะรวบรวมเงินจากนักลงทุนหน้าใหม่ไปจ่ายคืนเป็นผลกำไรแก่นักลงทุนรายแรก ๆ คนกลุ่มแรกจะมองว่าการลงทุนนั้นได้กำไร และพลอยชักจูงคนอื่น ๆ ที่มีกำลังทรัพย์มาลงทุนตาม เหตุที่นักต้มตุ๋นหลอกลวงพุ่งเป้าไปยังเหยื่อที่เป็นผู้สูงวัย อาจมีด้วยกันหลายประการ เช่น ผู้สูงวัยมักไวใจผู้อื่นโดยง่าย โดยเฉพาะคนที่อ้างว่าจะเข้ามาดูแลชีวิตผู้สูงวัย ผู้สูงวัยมักมีเงินออมจำนวนมาก หรือทรัพย์สินอื่น ๆ ที่สะสมไว้ตั้งแต่วัยหนุ่มสาว ผู้สูงวัยมักขาดความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและหลอกลวงทางออนไลน์ ทางโทรศัพท์ หรือบนโซเชียลมีเดีย ผู้สูงวัยบางคนเริ่มมีความเสื่อมด้านความจำหรือทางร่างกาย ทำให้วิจารณาญาณอาจช้าลง และไม่ทันฉุกคิดถึงภัยจากนักหลอกหลวง เมื่อตกเป็นเหยื่อแล้ว ผู้สูงวัยหลายรายอาจไม่กล้าบอกสังคม ด้วยกลัวถูกมองว่าไร้ความสามารถหรือประนามจากสังคม จึงทำให้ผู้ร้ายชะล่าใจและตั้งเป้าผู้สูงวัยอยู่ตลอด1 ทั้งนี้ ในต่างประเทศก็มีกลโกงหลายประเภทไม่แพ้ประเทศไทย ซึ่งวิธีการที่มิจฉาชีพจะใช้ในการหลอกลวงผู้สูงวัยมีด้วยกัน เช่น แอบอ้างเป็นรัฐบาล – มิจฉาชีพจะโทรหาผู้สูงวัยโดยแสงว่ามีการค้างชำระค่าใช้จ่ายหากหลายแบบ โดยขู่ว่าจะจับกุมหรือส่งหมายศาล มิจฉาชีพมักบังคับให้ผู้สูงวัยทำการชำระเงินในรูปแบบต่าง ๆ ตามเหตุผลที่ยกขึ้นมากล่าวอ้าง อาจเป็นการโอนเงินโดยตรง หรือเติมเงินสดในบัตรต่าง ๆ โดยมักปลอมแปลงหมายเลขของหน่วยงานภาครัฐเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ เป็นต้น การชิงโชคหรือล็อตตารี

การหลอกลวงออนไลน์ Read More »

STAAS เกมออนไลน์เพิ่มทักษะการรู้ทันสื่อของผู้สูงวัย

ผลสำรวจประสบการณ์การถูกหลอกลวงผ่านสื่อของผู้สูงอายุไทยใน 2 ปีที่ผ่านมาของทีมวิจัยจากศูนย์วิชาการด้านการรู้เท่าทันสื่อของผู้สูงอายุ สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มการตกเป็น “เหยื่อ” จากการเปิดรับข้อมูลที่บิดเบือนและข่าวลวงประเภทต่าง ๆ ของผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น โดยปี 2565 มีผู้สูงอายุไทยที่ตระหนักรู้ตัวว่าตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงผ่านสื่อมากถึง 22% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่มีเพียง 16% จากผู้ตอบแบบสำรวจอายุ 60 ปีขึ้นไปจำนวน 2000 คนทั่วประเทศ โดยผู้สูงอายุที่รู้ว่าตนเองตกเป็นเหยื่อนั้นมีการเปิดรับสื่อมากกว่ากลุ่มผู้สูงอายุที่รู้ว่าตัวไม่ตกเป็นเหยื่อ เป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย มีอายุอยู่ระหว่าง 60-69 ปี มีการศึกษาไม่มากนัก และมีฐานะการเงินปานกลาง ส่วนสื่อที่ทำให้ผู้สูงอายุเสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อมากที่สุด คือ สื่อบุคคล และสื่อออนไลน์1 สำหรับเรื่องที่ผู้สูงอายุไทยถูกหลอกมากที่สุด คือ ถูกหลอกให้ซื้อของที่ไม่ได้คุณภาพ 46.14%  ถูกหลอกให้ทำบุญ ช่วยเหลือคน ช่วยเหลือสัตว์ 43.06% ถูกหลอกให้ซื้อยาและผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ 30.23%  และถูกหลอกให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล 13.86% โดยเป็นที่น่าสังเกตก็คือ จำนวนผู้สูงอายุที่ถูกหลอกให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด คือ เพิ่มขึ้นจากปี 2564 กว่า 10%1 เมื่อลองนำสัดส่วนจำนวนผู้สูงอายุที่ถูกหลอก (22%)

STAAS เกมออนไลน์เพิ่มทักษะการรู้ทันสื่อของผู้สูงวัย Read More »

การเตรียมความพร้อมและเทคโนโลยีเพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมผู้สูงอายุในประเทศบราซิล

          ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมผู้สูงอายุที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก บราซิลเป็นหนึ่งในประเทศที่มีขนาดใหญ่และกำลังเข้าสู่สภาวะการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรไปในทิศทางเช่นว่านี้  นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2012 บราซิลได้เริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ แต่ประเด็นนี้ก็ยังไม่ได้อยู่ในความสนใจของชาวบราซิลมากนักในเวลานั้น อย่างไรก็ตาม ได้มีการคาดการณ์ว่าในปี ค.ศ. 2025 การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในบราซิลจะเป็นสิ่งที่สังเกตเห็นได้ชัดขึ้น และยังมีการคาดคะเนอีกด้วยว่า ภายในปี ค.ศ. 2050 บราซิลจะมีสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปีเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า อันเนื่องมาจากประชากรจะมีอายุเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นสวนทางกับอัตราการเกิดของทารกที่ลดลง1 ภายใต้สภาวการณ์เช่นนี้ การเตรียมความพร้อมของภาคส่วนต่างๆ ตลอดจนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อตอบสนองและรองรับสังคมผู้สูงอายุ จึงเป็นความจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้           การให้ความสำคัญต่อกลุ่มผู้สูงอายุในบราซิล เป็นสิ่งที่ปรากฏในสังคมมานานแล้ว สิทธิต่างๆ ของผู้สูงอายุ ได้รับการรับประกันภายใต้รัฐธรรมนูญ โดยมีกฎหมายเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ ตลอดจนการมีนโยบายจากภาครัฐทั้งในระดับชาติ ระดับมลรัฐ และระดับท้องถิ่นที่เน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมและชุมชน เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือผู้สูงอายุให้สามารถเข้าถึงสิทธิและการได้รับความช่วยเหลือต่างๆ จากสังคมได้2 นอกจากนี้ บราซิลยังเป็นประเทศที่มีความโดดเด่นในโครงการด้านสวัสดิการเพื่อผู้สูงอายุ โดยในกรณีทั่วไป รัฐจะมีระบบประกันสังคมระดับชาติ ซึ่งเป็นประกันสังคมจากการสมทบวงเงินซึ่งถูกจัดเก็บโดยรัฐในช่วงวัยทำงานเพื่อใช้สำหรับเป็นบำนาญในอนาคตเมื่อเกษียณ แต่ในกรณีที่ผู้สูงอายุนั้นอยู่ในครอบครัวที่ยากจนมาก รัฐจะมีโครงการที่ได้รับการจัดสรรภาษีเพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุเหล่านั้น การวางแผนสวัสดิการหลังเกษียณให้แก่ผู้สูงอายุของรัฐบาลบราซิล เป็นปัจจัยที่ช่วยลดปัญหาความยากจน และเป็นแหล่งพึ่งพาทางรายได้ที่สำคัญของผู้สูงอายุในประเทศ3  นอกจากนี้ บราซิลยังมีระบบสุขภาพโดยรัฐ (Brazilian public health system,

การเตรียมความพร้อมและเทคโนโลยีเพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมผู้สูงอายุในประเทศบราซิล Read More »

ผู้สูงวัยกับการใช้คอลเซ็นเตอร์

แนวโน้มของประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ยิ่งทำให้การดูแลผู้สูงอายุและการจัดที่อยู่อาศัยกลายเป็นประเด็นที่สำคัญ ผู้สูงอายุหลายคนเลือกที่จะอยู่คนเดียว แต่การเข้าถึงการดูแลและความปลอดภัยเป็นสิ่งที่หลายคนกังวล อุปกรณ์ดูแลผู้สูงอายุที่อยู่บ้านคนเดียวในปัจจุบันมักจะเป็นการกดสัญญาณเตือน หรือเครื่องมือสื่อสารภายในอย่างอินเตอร์โฟน โดยปกติ คนทำงานด้านคอลเซ็นเตอร์จะมีอายุน้อย เป็นกลุ่มคน Gen Y (ช่วงอายุ 20-30 ปี) คนกลุ่มนี้เองที่จำเป็นต้องพบปะลูกค้าที่ใช้บริการคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งลูกค้ารายสำคัญคือ ผู้สูงวัย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่พนักงานวัยอ่อนกว่าจะต้องศึกษาวิธีการรับมือหรือดูแลลูกค้าที่อยู่ในวัยที่แก่กว่าตนเองมาก เพื่อการบริการที่ประทับใจ ทั้งนี้ คนรุ่นใหม่มักมีคุณลักษณะบางอย่างที่เหมาะแก่การทำงานภาคบริการ เช่น ความต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งงานงาน หรือความเชี่ยวชาญเทคโนโลยี ตลอดจนความกระตือรือร้นที่จะทำงานร่วมกับผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่า นอกจากนั้น ความร่าเริงกระฉับกระเฉงของคนวัยนี้ อาจช่วยลดความรู้สึกโดดเดี่ยวที่ผู้สูงอายุหลายคนประสบเมื่อใช้บริการผ่านคอลเซ็นเตอร์ สำหรับบริษัทคอลเซ็นเตอร์เอง ควรพยายามหาตัวแทนพนักงานที่ไม่เพียงเข้าใจการบริการลูกค้าเท่านั้น แต่มองว่าการมีส่วนร่วมกับประสบการณ์ของลูกค้าจะช่วยสร้างความหมายของชีวิตที่ดีขึ้นได้1 มีผู้เสนอให้แนะข้อพึงปฏิบัติสำหรับการบริการคอลเซ็นเตอร์สำหรับผู้สูงวัย ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับพนักงานคอลเซ็นเตอร์ผู้มีอายุน้อยได้ฝึกฝนและปฏิบัติตาม เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้บริการที่ประทับใจ 6 ข้อ2 ปฏิบัติด้วยความเคารพ – ผู้สูงอายุมักรู้สึกว่าตนเองถูกดูแคลนจากตัวแทนบริการคอลเซ็นเตอร์ที่มีอายุน้อยกว่า แม้ในความเป็นจริงจะเกิดจากความเข้าใจผิดหรือไม่ตั้งใจของพนักงานเอง ดังนั้นในขณะที่พูดคุย พนักงานคอลเซ็นเตอร์จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ปฏิบัติต่อผู้สูงวัยด้วยความเคารพ ไม่ควรใช้เวลาในการแก้ปัญหาผ่านคอลเซ็นเตอร์เป็นเวลานานเนื่องจากการสื่อสารจะทำได้ช้าลง พนักงานไม่ควรแสดงน้ำเสียงหงุดหงิดคับข้องใจ เพราะเสียงจะเป็นตัวส่งสัญญาณว่าเคารพหรือปฏิเสธปัญหาของผู้สูงวัยได้ จดข้อมูลให้ชัดเจน – การฟังที่ไม่ชัดเจนหรือการหลงลืมมักเป็นองค์ประกอบที่พบบ่อยที่สุดซึ่งมาพร้อมกับอายุ และทำให้การรับข้อมูลด้วยคอลเซ็นเตอร์มีปัญหามากยิ่งขึ้น ดังนั้นการบันทึกการสนทาและส่งอีเมล (หากบริษัทผู้ให้บริการมีบริการเสริม) จะทำให้กระบวนการติดต่อเพื่อแก้ไขปัญหาใด ๆ ผ่านคอลเซ็นเตอร์ทำได้ง่ายขึ้น

ผู้สูงวัยกับการใช้คอลเซ็นเตอร์ Read More »

ความเชื่อในเรื่องโชคลางในช่วงสถานการณ์โควิด-19: ผลกระทบต่อผู้สูงวัย

ความเชื่อในเรื่องโชคลางนั้นแสดงออกในสังคมมนุษย์ในรูปแบบต่าง ๆ มาเป็นเวลาช้านาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตัวเลข สี วันพิเศษ เหตุการณ์พิเศษ หรือสัตว์พิเศษบางชนิดมักถูกมนุษย์มองว่าชั่วร้าย บางครั้งผู้คนมีความคิดที่ไม่เป็นวิทยาศาสตร์มากนักเพราะยึดถือความเชื่อที่โยงกับศาสนา กล่าวคือความเชื่อในเรื่องอิทธิปาฏิหาริย์ยังคงอยู่กับมนุษย์แม้จะมีความเจริญก้าวหน้าของวิทยาการมากแล้ว1 มีการศึกษาพบว่า ความเชื่อโชคลางอาจเป็นอันตรายต่อการดำเนินการตามมาตรการความปลอดภัยของการป้องกันโควิด-19 เนื่องจากบางคนเชื่อว่าโรคนี้จะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ หากบูชาสิ่งของที่ตนคิดว่าศักดิ์สิทธิ์2  นอกจากนี้ ยามที่คนเราไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ก็มักหันไปพึ่งวิธีแก้ปัญหาด้วยความเชื่อโชคลาง เนื่องจากหวาดระแวงผู้อื่นและสังคมภายนอก จึงใช้ชีวิตอย่างตื่นตัวตลอดเวลา สภาวะที่คล้ายกับสภาวะการตื่นตัวของผู้คนในช่วงการระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงแรกของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศจีน ซึ่งแม้ว่าสื่อหลายแขนงได้นำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง แต่ผู้คนยังขาดความเข้าใจเกี่ยวกับโควิด-19 ในหลายแง่มุมอย่างเด่นชัด รวมถึงจากประเด็นทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการสร้างภูมิคุ้มกันหลังติดเชื้อ หรือการจัดหาวัคซีน3 กระนั้นเอง ความเชื่อในเรื่องโชคลางจึงทำให้ผู้คนพลอยหวาดกลัว หรือในบางกรณีก็ไม่เชื่อว่าจะมีการระบาดมาถึงตนเพราะมีของเครื่องลางเพื่อปกป้องตนเองดีแล้ว กระนั้นก็ดี ความวิตกกังวลเกี่ยวกับความตายในช่วงการระบาด ส่งผลต่อด้านจิตวิทยาจนนำมาซึ่งทฤษฎีสมคมคิด (conspiracy) หรือความเชื่อโชคลางกับความตายในกลุ่มเปราะบาง เช่น ชุมชนสูงวัย ซึ่งจำเป็นต้องมีการวางแผนเชิงนโยบายที่ดี เพื่อป้องกันการตัดสินใจที่ผิดพลาดด้านสุขภาพ จนส่งผลกระทบต่อคนหมู่มากได้4  โดยในเบลเยียมและสหรัฐอเมริกา มีการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความเชื่อที่งมงาย อำนาจที่ควบคุม และความรู้สึกเสี่ยงต่อโควิด-19 โดยพบว่า ในเบลเยียมนั้น ความเชื่อโชคลางไม่เด่นชัด และบุคคลมีระดับของอำนาจในการควบคุมจิตใจที่สูง แต่ในอเมริกานั้น ความเชื่อเรื่องโชคลางสูง แต่มีอำนาจในการควบคุมในจิตใจซึ่งสัมพันธ์ความเชื่อโชคลางในระดับที่ผกผัน จนทำให้เกิดความรู้สึกที่รุนแรงมากขึ้นว่ามีความเสี่ยงต่อโควิด-19 ซึ่งอาจอธิบายได้จากความแตกต่างทางวัฒนธรรม เช่น

ความเชื่อในเรื่องโชคลางในช่วงสถานการณ์โควิด-19: ผลกระทบต่อผู้สูงวัย Read More »

ผู้สูงวัยชอปปิงออนไลน์

ในสังคมสูงวัย จะมีผู้บริโภคต้องการซื้อสินค้าในร้านค้าอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของสินค้าบางประเภท ผู้เชี่ยวชาญหลายคนคาดการณ์ว่าผู้บริโภคที่เริ่มซื้อสินค้าและบริการออนไลน์เนื่องจากข้อจำกัดของ โควิด-19 จะยังคงซื้อสินค้าออนไลน์ต่อไปในอนาคตในระดับหนึ่ง ความสนใจในอีคอมเมิร์ซในโลกหลังการระบาดจะยังคงมีอยู่เพราะผู้สูงวัยมีประสบการณ์ในการซื้อของในช่วงการระบาดที่ผ่านมา ทั้งนี้เพราะผู้สูงอายุได้ลงทุนเวลาเพื่อทำความเข้าใจหลักการของการชอปปิงออนไลน์ และลงทุนเงินในการซื้ออุปกรณ์และเทคโนโลยีการสื่อสารไว้แล้ว ผู้สูงวัยกลุ่มนี้จึงมีความมั่นใจมากขึ้นกับเทคโนโลยีดิจิทัล ตระหนักถึงประโยชน์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการซื้อของออนไลน์ นอกจากนี้ บริการสุขภาพทางไกลออนไลน์จะมีแนวโน้มที่จะเติบโตเป็นพิเศษเนื่องจากลูกค้าที่มีอายุมากขึ้น ต่างจากคนหนุ่มสาวที่อาจพึ่งพาบริการสุขภาพทางไกลน้อยลงหลังจากการระบาดโควิด-19 จางหายไป ผู้สูงอายุใช้บริการเหล่านี้เพราะความสะดวกและจำนวนผู้ป่วยโรคเรื้อรังในหมู่ผู้สูงอายุเพิ่มสูงขึ้น นอกจากความสะดวกสบายแล้ว บริการเหล่านี้ยังมีราคาถูกกว่าการไปพบแพทย์ด้วยตนเอง ในประเทศที่บริการสุขภาพทางไกลเข้าถึงได้น้อย ราคาบริการสุขภาพทางไกลออนไลน์ที่ถูกกว่า ย่อมทำให้บริการเหล่านี้ดึงดูดใจผู้สูงอายุ มีการคาดการณ์ว่าการตรวจสุขภาพทางไกลจะกลายเป็นมาตรฐานของบริการด้านสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ1 จากการศึกษาในไทยเกี่ยวกับการใช้งานบริการออนไลน์เพื่อซื้อสินค้า2 พบว่า ผู้เข้าร่วมวิจัยผู้สูงอายุคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้นในช่วงห้าปีที่ผ่านมา เพราะปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้อย่างแพร่หลาย แต่ผู้สูงอายุกลุ่มนี้ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับความไว้วางใจในตลาดออนไลน์ กระนั้นก็ดี แพลตฟอร์มออนไลน์ได้ช่วยเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวและเพื่อน และยังช่วยให้ผู้สูงอายุแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ไม่ว่าจะข้อมูลเกี่ยวกับการขายและโปรโมชั่นออนไลน์ ซึ่งมีผลโน้มน้าวให้ทำการซื้อออนไลน์เป็นครั้งแรก สำหรับข้อแตกต่างในการเปิดรับข้อมูลออนไลน์กับออฟไลน์ พบว่า ผู้ที่ไม่เคยซื้อสินค้าออนไลน์ไม่เชื่อถือแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้า เนื่องจากตรวจสอบความน่าเชื่อถือได้ยาก และไม่แน่ใจว่าจะตรวจสอบชื่อเสียงของแพลตฟอร์มออนไลน์ได้อย่างไร ดังนั้นผู้สูงอายุกลุ่มนี้จึงคิดว่า ซื้อสินค้าออฟไลน์มีความเสี่ยงน้อยกว่า การวิจัยเรื่องนี้ยังพบด้วยว่า การตอบรับของผู้ขายยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญ เพราะผู้ซื้อที่ไม่ได้ใช้สื่อออนไลน์เป็นประจำจะไม่ทราบวิธีการซื้อสินค้าออนไลน์อย่างละเอียด หากซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์ม เช่น Lazada หรือ Shopee ผู้สูงอายุกลุ่มนี้จะไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร และไม่สามารถติดต่อผู้ขายทางโทรศัพท์ได้ การซื้อสินค้าออนไลน์จึงหมายความว่า สินค้าไม่สามารถทดสอบเพื่อประกันคุณภาพก่อนตัดสินใจซื้อได้ ซึ่งทำให้ยากต่อการตัดสินใจ กระนั้นก็ดี หลายแบรนด์ไม่ได้เจาะกลุ่มลูกค้าออนไลน์ที่เป็นผู้สูงอายุเพราะทำได้ยาก

ผู้สูงวัยชอปปิงออนไลน์ Read More »

TikTok โลกแห่งความบันเทิงรูปแบบใหม่ที่สูงวัยไทยชอบแชร์

นาทีนี้คงไม่มีใครแทบจะไม่รู้จัก แพลตฟอร์มที่มีชื่อว่า TikTok อีกแล้ว เพราะเหล่าคนดัง คนในวงการบันเทิง คนรอบ ๆ ตัว หรือแม้แต่ผู้สูงอายุในครอบครัวของเราเองนั้นก็พากันสร้างคอนเทนต์ และแชร์คลิปวิดีโอจากแอป TikTok ผ่านหูผ่านตากันอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นคลิปร้องเพลง เต้นรำ คลิปตลกขบขัน คลิปสัตว์โลกน่ารัก หรืออาจจะเป็นคลิปที่สอดแทรกสาระไปพร้อมกับความบันเทิง เช่น สอนภาษา สอนทำอาหาร หรือแม้แต่การให้ความรู้ด้านสุขภาพสำหรับคนทุกเพศทุกวัย โดย TikTok นั้นเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการลงคลิปวิดีโอสั้น ๆ และเหมาะกับผู้ที่ต้องการสร้างสรรค์และรับชมผลงานผ่านสาระความบันเทิงในรูปแบบต่าง ๆ เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับการสร้างและพัฒนาโดยบริษัทสัญชาติจีน ByteDance เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2559 ซึ่งในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา TikTok ก็ได้กลายเป็นแอปพลิเคชันที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมากขึ้นหลายเท่าตัวเลยทีเดียว ปัจจุบันมียอดผู้ใช้งาน (Monthly Active User) ทะลุ 1,000 ล้านคนทั่วโลก โดยเฉพาะในอาเซียนรวมถึงประเทศไทยนั้น มียอดผู้ใช้เติบโตกว่า 85% ต่อปี รวมยอดผู้ใช้งาน 240 ล้านคนต่อเดือน ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทวิเคราะห์และเผยแพร่ข้อมูลการตลาดอย่าง Statista ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลยอดบัญชีผู้ใช้งาน

TikTok โลกแห่งความบันเทิงรูปแบบใหม่ที่สูงวัยไทยชอบแชร์ Read More »

Scroll to Top