ในบริบทที่ประเทศไทยกำลังก้าวสู่สังคมสูงวัยเต็มรูปแบบ การตั้งคำถามว่า “ผู้สูงอายุยังสามารถ มีบทบาทในสังคมได้อย่างไร” กลายเป็นประเด็นที่ทั้งนักวิชาการและผู้ปฏิบัติงานภาคสังคมต่างให้ความสนใจ ข้อเท็จจริงที่เห็นชัดคือ ผู้สูงอายุจำนวนมากมีทุนทางปัญญา ประสบการณ์ และวุฒิภาวะที่สั่งสมมายาวนาน
แต่กลับกัน จากผลการประเมินสุขภาพจิตด้วยโปรแกรม Mental Health Check In พบว่าผู้สูงอายุ มีความเครียดสูง ร้อยละ 5.13 เสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า ร้อยละ 10.26 เสี่ยงฆ่าตัวตาย ร้อยละ 7.69 และพลังใจต่ำ ร้อยละ 1.94 (ข้อมูลจาก Mental Health Check In กรมสุขภาพจิต)1
แม้ปัญหาด้านสุขภาพจิตจะสะท้อนผ่านตัวเลขดังกล่าว แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหลังและพบได้บ่อยในชีวิตจริงของผู้สูงอายุ คือความเหงาและความโดดเดี่ยวทางสังคมเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพกายและใจของผู้สูงอายุ งานวิจัยบางชิ้นชี้ว่า ผลเสียของการเหงาเรื้อรังรุนแรงพอ ๆ กับการสูบบุหรี่วันละ 15 มวน และมีส่วนทำให้คุณภาพชีวิตและอายุขัยลดลง นี่คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้การมองหาแนวทางใหม่ ๆ เพื่อฟื้นฟูสุขภาวะจิตใจจึงเป็นสิ่งจำเป็น2
หนึ่งในแนวทางที่น่าสนใจคือการเปิดพื้นที่ให้ผู้สูงอายุได้ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมา การเผยแพร่ความรู้ให้คนรุ่นหลังจึงไม่เพียงแต่เป็นการส่งต่อภูมิปัญญา หากยังเป็น “กลไกสร้างความหมายของชีวิต” ที่ทำให้ผู้สูงอายุได้ตระหนักว่าความรู้และประสบการณ์ของตนยังมีประโยชน์ต่อสังคม
ขณะเดียวกัน การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเลือกนำเทคโนโลยี AI ที่สามารถนำมาปรับใช้ได้จริง เพื่อให้เข้ากับบริบทสังคมในประเทศไทย3
ตัวอย่างหนึ่งของการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) คือ การนำมาใช้เป็นระบบช่วยถอดเสียงเรื่องเล่าของผู้สูงอายุให้เป็นข้อความที่อ่านเข้าใจง่ายและเป็นรูปแบบที่สละสลวย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล่าภูมิปัญญาท้องถิ่น ประวัติศาสตร์ชุมชน หรือข้อแนะนำในการดำเนินชีวิต โดยสามารถใช้เครื่องมือ Gemini ในการแปลงเสียงบันทึกให้กลายเป็น “บทความเรื่องเล่า”
ในทางปฏิบัติ ผู้สูงอายุอาจเริ่มต้นเพียงการบันทึกเสียงเรื่องเล่าของตนเอง แล้วจึงนำไฟล์เสียงนั้นไปอัปโหลดในโปรแกรม Gemini พร้อมพิมพ์คำสั่งง่าย ๆ ว่า “ถอดเสียงจากไฟล์นี้เป็นข้อความภาษาไทย” จากนั้นระบบจะประมวลผลและแปลงถ้อยคำที่พูดออกมาให้เป็นข้อความเบื้องต้น ซึ่งต่อมาสามารถปรับแต่งหรือขัดเกลาเพิ่มเติมได้ จนกลายเป็นบทความที่อ่านได้ราบรื่น และมีความน่าอ่านมากยิ่งขึ้น กระบวนการนี้จึงไม่ต่างจากการมี “ผู้ช่วยส่วนตัว” คอยเก็บถ้อยคำและจัดเรียงให้เป็นระเบียบงดงาม
นอกจากนี้ บทความที่ได้ ยังสามารถนำไปต่อยอดเป็นบทพูดสำหรับการจัดทำรายการ Podcast หรือคลิปเสียงบรรยาย โดยอาศัยฟีเจอร์ของ NotebookLM เพียงอัปโหลดแหล่งข้อมูล ไม่ว่าจะเป็น PDF หรือข้อความ ระบบจะประมวลผลและเปิดหน้าต่างสนทนาให้ผู้ใช้สามารถสั่งการเพิ่มเติมได้ทันที ยกตัวอย่าง หากต้องการทำสคริปต์สำหรับ YouTube ก็เพียงพิมพ์คำสั่งว่า “ปรับบทความนี้ให้เป็นสคริปต์ Podcast สำหรับ YouTube” ระบบจะจัดทำสคริปต์ออกมาในรูปแบบข้อความ หลังจากนั้นผู้ใช้สามารถเลือกเมนู “การสนทนาแบบเจาะลึก” แล้วกด “สร้าง” เพื่อให้ระบบประมวลผลและจัดทำไฟล์เสียงสรุปบทความ โดยใช้เวลาเพียง 1–2 นาทีเท่านั้น4
หลังจากสร้างสรรค์รายการ Podcast หรือคลิปเสียงบรรยายแล้ว ผู้สูงอายุสามารถเผยแพร่เนื้อหาให้เยาวชนเข้าถึงได้ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ตนมีอยู่ กระบวนการดังกล่าวช่วยเปลี่ยน “ประสบการณ์เฉพาะบุคคล” ให้กลายเป็น “มรดกทางปัญญา” ที่คนรุ่นใหม่สามารถเรียนรู้และเข้าถึงได้ตลอดเวลา เรื่องเล่าของผู้สูงอายุที่ถูกรับฟัง ถูกนำไปใช้ หรือได้รับการตอบรับจากผู้ฟัง ผ่านการคอมเมนต์ การแชร์ หรือการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แม้จะอยู่ในโลกออนไลน์ ยังคงสะท้อนคุณค่าและความหมายของประสบการณ์ชีวิต ทำให้ผู้สูงอายุรับรู้ถึงบทบาทและความสำคัญของตนในสังคม และความรู้สึกนี้ยังมีความเชื่อมโยงโดยตรงกับการยอมรับและการเห็นคุณค่าในตนเองของผู้สูงอายุ
ในเชิงจิตวิทยา การได้รับการยอมรับและการเห็นคุณค่าในตนเอง บุคคลที่มีคุณค่าในตนเองสูง (high self-esteem) จะมีความสามารถในการเผชิญกับอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาในชีวิต และสามารถยอมรับสถานการณ์ที่ทำให้ตนเองรู้สึกผิดหวังและท้อแท้ใจด้วยความหวังและความกล้าหาญ มีการประเมินตนเอง ในทางบวก มีความเชื่อมั่นในความสามารถจนมั่นใจได้ว่าตนเองสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้สำเร็จตามที่ต้องการ โดยภาพรวมแล้ว บุคคลที่มีการเห็นคุณค่าในตนเองสูงจะมีความสุขและใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ การนำ AI เข้ามาช่วยสะท้อนคุณค่าผ่าน feedback ในเชิงบวก เช่น การชื่นชมว่า “สิ่งนี้คือภูมิปัญญาที่จะเป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นใหม่” จึงมีศักยภาพเป็นเหมือนกระจกใจที่ช่วยลดความรู้สึกไร้ค่าได้อย่างเป็นรูปธรรม5
อย่างไรก็ดี ประเด็นที่ควรถามต่อคือ AI ควรถูกออกแบบอย่างไรให้เข้าถึงง่าย ไม่ซับซ้อนเกินไปสำหรับผู้สูงอายุ อีกทั้งจะทำอย่างไรให้การใช้ AI ไม่กลายเป็นการแทนที่การปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ แต่กลับเป็น “ตัวเสริม” ที่ช่วยเปิดพื้นที่ให้ผู้สูงอายุได้สื่อสารกับคนรุ่นใหม่มากขึ้น คำถามเหล่านี้สะท้อนถึงความท้าทาย ที่ต้องการการวิจัยและการพัฒนาในอนาคต
บทสรุป
AI ไม่ได้เป็นเพียงเทคโนโลยี แต่คือ “สื่อกลาง” ที่ช่วยแปรเปลี่ยนทุนทางปัญญาของผู้สูงอายุให้กลายเป็นมรดกความรู้สำหรับคนรุ่นหลัง ขณะเดียวกันก็เป็นกระบวนการสร้างคุณค่าในชีวิตของผู้สูงอายุเอง บทบาทเช่นนี้ ควรถูกต่อยอดให้กว้างขึ้นโดยบูรณาการทั้งงานวิจัยด้านเทคโนโลยี สุขภาวะ และสังคม เพื่อทำให้ “การแบ่งปันความรู้” ไม่ใช่เพียงกิจกรรม แต่เป็นพลังที่ช่วยขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุและความเข้มแข็งของสังคมโดยรวม
เขียนโดย
ลัดดาวัลย์ ฉิมงาม
รายการอ้างอิง
- กรมสุขภาพจิต. (2566). รายงานประจำปี 2566 ศูนย์สุขภาพจิตที่ 5. สืบค้นเมื่อ 7 กันยายน 2568 จาก chrome-extension://efaidnbmnnnibpcajpcglclefindmkaj/https://www.dop.go.th/download/knowledge/th1696238995-2521_0.pdf
- Yang Yuyi, Wang Chenyu, Xiang Xiaoling, An Ruopeng (2025), AI Applications to Reduce Loneliness Among Older Adults: A Systematic Review of Effectiveness and Technologies. Healthcare, 13(5), 446. https://doi.org/10.3390/healthcare13050446
- สถาบันนวัตกรรมการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยมหิดล. (ม.ป.ป.). การปรับใช้เทคโนโลยี AI กับสังคมผู้สูงอายุในประเทศไทย. สืบค้นเมื่อ 8 กันยายน 2568. https://il.mahidol.ac.th/th/newsletter76-page-10/
- Techsauce. (2568). NotebookLM คืออะไร? AI อ่านไฟล์จาก Google สรุปงานได้ทันทีและฟรี !. สืบค้นเมื่อ 12 กันยายน 2568 จาก https://techsauce.co/tech-and-biz/notebooklm-google-ai-what-is-it
- คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย. (2559). Self-esteem – การเห็นคุณค่าในตนเอง. สืบค้นเมื่อ 8 กันยายน 2568 จาก https://www.psy.chula.ac.th/th/feature-articles/self-esteem/